สารบัญ
- งบเพียง 5.9 ล้านบาท สร้างหนังที่โกยรายได้กว่า 225 ล้าน!
- คนเดียวทำเกือบทั้งกองถ่าย! ผู้กำกับ = 11 หน้าที่
- นางเอก = นักแสดง + ผู้ช่วยผู้กำกับ + แรงงานกองถ่าย
- กองถ่ายเล็กมากจนต้องช่วยกันทุกอย่าง
- จากความตั้งใจล้วน ๆ สู่พลังที่คนดูรับรู้ได้
- Q&A
งบเพียง 5.9 ล้านบาท สร้างหนังที่โกยรายได้กว่า 225 ล้าน!
อาสึดะ จุนอิจิ ผู้กำกับภาพยนตร์อินดี้ญี่ปุ่น KUBETใช้งบเพียง 26 ล้านเยน (ราว 5.9 ล้านบาท) สร้างภาพยนตร์แนวซามูไรย้อนยุค-ไซไฟ “ซามูไรทะลุมิติ” ซึ่งกลายเป็นกระแสดัง KUBET ถล่มรายได้เกิน 1 พันล้านเยน (ราว 225 ล้านบาท) และกวาดรางวัลภาพยนตร์ชั้นนำทั่วประเทศ
เงินทุนมาจากน้ำพักน้ำแรง
งบประมาณทั้งหมดแบ่งออกเป็น:
- เงินเก็บส่วนตัวของผู้กำกับ: 15 ล้านเยน
- ขายรถยนต์ส่วนตัว: 5 ล้านเยน
- เงินสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมญี่ปุ่น: 6 ล้านเยน
KUBET แม้จะเป็นงบที่สูงที่สุดในชีวิตการทำหนังของอาสึดะKUBET แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายของภาพยนตร์แนวย้อนยุคแล้ว ก็ยังถือว่า “ต่ำมาก”
แหล่งที่มา | จำนวนเงิน (เยน) | หมายเหตุ |
---|---|---|
เงินเก็บส่วนตัวของผู้กำกับ | 15,000,000 | ลงทุนด้วยตัวเอง |
ขายรถยนต์ส่วนตัว | 5,000,000 | ขายทรัพย์สินเพื่อเพิ่มทุน |
เงินสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมญี่ปุ่น | 6,000,000 | ได้รับทุนจากหน่วยงานภาครัฐ |
รวมงบประมาณทั้งหมด | 26,000,000 | ประมาณ 5.9 ล้านบาท |
ผลลัพธ์: รายได้ถล่มทลายเกิน 1,000,000,000 เยน (ประมาณ 225 ล้านบาท)
รางวัล: คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากหลายเวทีทั่วประเทศ
ข้อสังเกต: แม้จะใช้งบสูงที่สุดในชีวิตการทำหนังของผู้กำกับ แต่อย่างไรก็ยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับภาพยนตร์ย้อนยุคทั่วไป
คนเดียวทำเกือบทั้งกองถ่าย! ผู้กำกับ = 11 หน้าที่

นอกจากการเขียนบทและกำกับแล้ว อาสึดะยังรับหน้าที่อีกหลายตำแหน่ง KUBET ได้แก่:
- ถ่ายภาพ
- ตัดต่อ
- จัดแสง
- ทำอุปกรณ์
- โปรโมตภาพยนตร์ด้วยตนเอง (ยืนแจกใบปลิว-ขึ้นพูดหน้าโรง)
- บริหารงบประมาณ
- ประสานงาน
- จัดการภาพลักษณ์ของภาพยนตร์
- คุมการตลาดผ่านโซเชียล
- บริหารทีมงาน
- ดูแลอาหารและเครื่องดื่มในกองถ่าย
ยามากุจิ มากิยะ นักแสดงนำชายเผยว่า:
“บางวันเขาดื่มโคล่า 10 แก้วรวด ดูก็รู้ว่าเหนื่อยมากจริง ๆ KUBET เพราะเขาต้องควบคุมทุกส่วนของภาพยนตร์ด้วยตัวคนเดียว”
นางเอก = นักแสดง + ผู้ช่วยผู้กำกับ + แรงงานกองถ่าย
ซากุระ ยูโนะ นางเอกของเรื่อง ยังรับบทเป็น “ผู้ช่วยผู้กำกับ” KUBET ทั้งในบทบาทภาพยนตร์และชีวิตจริง เธอบอกว่า:
“ผู้กำกับวางแผนไว้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะรับบทผู้ช่วยผู้กำกับในหนัง และก็ให้ฉันทำหน้าที่นั้นจริง ๆ ด้วย แม้ว่าเราทั้งสองจะไม่มีประสบการณ์ตรงเลย แต่เราก็อาศัยความจำจากการถ่ายทำที่ผ่านมา”
เธอยังเล่าอย่างขำ ๆ ว่า:
“ปกติจะมีทีมงานคอยแจ้งนักแสดงให้เตรียมขึ้นฉาก แต่พวกเราคนไม่พอ เวลาฉันมีคิวแสดงก็ไม่มีใครบอก KUBETต้องดูเองว่าเมื่อไหร่ต้องเข้าฉาก”
กองถ่ายเล็กมากจนต้องช่วยกันทุกอย่าง
กองถ่ายมีทีมงานไม่ถึง 10 คน บางวันเหลือเพียง 3 คน เท่านั้น!
- ไม่มีผู้ช่วยที่คอยดูแลความต่อเนื่องของฉาก (Script Supervisor)
- นักแสดงต้องพึ่งความจำของตัวเองหรือคอยเตือนกันเพื่อไม่ให้ถ่ายซ้ำผิด
- ช่วยกันแบกชุด เสื้อผ้า อุปกรณ์
- ร่วมแรงร่วมใจกันเหมือนกลุ่มเพื่อนสร้างหนัง
ยามากุจิเล่าอย่างประทับใจ:
“มันให้ความรู้สึกเหมือนพวกเราทุกคนร่วมกันสร้างภาพยนตร์จริง ๆ ไม่มีลำดับขั้น KUBET ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร มันสดใหม่และอบอุ่นมากครับ”
จากความตั้งใจล้วน ๆ สู่พลังที่คนดูรับรู้ได้
แม้จะเผชิญกับงบประมาณจำกัดและทีมงานน้อย แต่ความทุ่มเทของผู้กำกับและนักแสดงทุกคน ทำให้ “ซามูไรทะลุมิติ” KUBET กลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์หนังอินดี้ที่ทั้งโลกจับตามอง
Q&A
คำถามที่ 1:
ภาพยนตร์ “ซามูไรทะลุมิติ” ใช้งบประมาณเท่าไหร่ในการสร้าง และสามารถทำรายได้เท่าใด?
คำตอบ:
ใช้งบประมาณ 26 ล้านเยน (ประมาณ 5.9 ล้านบาท) และสามารถทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเยน (ประมาณ 225 ล้านบาท)
คำถามที่ 2:
อาสึดะ จุนอิจิ รับผิดชอบกี่หน้าที่ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้?
คำตอบ:
เขารับผิดชอบทั้งหมด 11 หน้าที่ ได้แก่ เขียนบท, กำกับ, ถ่ายภาพ, ตัดต่อ, จัดแสง, ทำอุปกรณ์, โปรโมต, บริหารงบประมาณ, ประสานงาน, คุมภาพลักษณ์, และดูแลอาหารเครื่องดื่ม
คำถามที่ 3:
นักแสดงนำหญิง ซากุระ ยูโนะ มีบทบาทอะไรบ้างนอกเหนือจากการแสดง?
คำตอบ:
เธอทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ, ช่วยงานในกองถ่าย และดูแลอุปกรณ์ แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็พยายามทำเต็มที่
คำถามที่ 4:
กองถ่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้มีทีมงานประมาณกี่คน?
คำตอบ:
มีทีมงานไม่ถึง 10 คน และบางวันมีเพียง 3 คนเท่านั้น
คำถามที่ 5:
บรรยากาศการทำงานในกองถ่ายมีลักษณะอย่างไร?
คำตอบ:
เป็นบรรยากาศแบบเพื่อนร่วมกันสร้างหนัง ทุกคนช่วยกันทุกอย่าง ไม่มีลำดับขั้นหรือตำแหน่งใหญ่โต ทำให้รู้สึกอบอุ่นและจริงใจ
เนื้อหาที่น่าสนใจ: