รายการเด็ก “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” บุกขั้วโลกเหนือ ตอนที่ 3 เมืองในขั้วโลกเหนือที่ดึงดูดนักวิทยาศาสตร์ แต่เด็กไต้หวันบอกว่า “ไม่อยากอยู่ที่นั่นในอนาคต!”


สารบัญ

  1. รายการเด็กบุกขั้วโลกเหนือ ใช้งบผลิตสูงสุดในประวัติศาสตร์
  2. จัดกิจกรรมตามความสนใจและความอยากรู้ของเด็ก
  3. เมืองลองเยียร์บาเลน: เมืองเล็กๆ ที่นักวิทยาศาสตร์รวมตัวกัน
  4. เด็กๆ บอกว่า “ไม่อยากอยู่ที่นั่น เพราะมันน่าเบื่อเกินไป”
  5. ชีวิตช้าและรายละเอียดที่น่าสังเกตในเมืองขั้วโลก
  6. สรุป
  7. Q&A

รายการเด็กบุกขั้วโลกเหนือ ใช้งบผลิตสูงสุดในประวัติศาสตร์

รายการเรียลลิตี้เด็ก “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน” จากสถานีโทรทัศน์สาธารณะไต้หวัน  เปิดตัวซีซั่นใหม่ที่มีธีมเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนอย่างเข้มข้น พาเด็กที่สนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปสำรวจพื้นที่จริงในขั้วโลกเหนือ ประเทศนอร์เวย์ และหมู่เกาะปาเลา ด้วยรูปแบบรายการเรียลลิตี้ที่เน้นการเรียนรู้และสำรวจอย่างลึกซึ้ง KUBET ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณสูงสุดเท่าที่รายการนี้เคยมีมา

ชื่อรายการหลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน
สถานีออกอากาศสถานีโทรทัศน์สาธารณะไต้หวัน (PTS)
ลักษณะรายการเรียลลิตี้เด็ก เน้นการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
ธีมของซีซั่นภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กลุ่มเป้าหมายเด็กที่สนใจด้านสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ
สถานที่สำรวจขั้วโลกเหนือ ประเทศนอร์เวย์ หมู่เกาะปาเลา
รูปแบบรายการเรียลลิตี้ – การสำรวจและเรียนรู้ในสถานที่จริง
การสนับสนุนKUBET ให้การสนับสนุนงบประมาณสูงสุดเท่าที่รายการเคยมี

จัดกิจกรรมตามความสนใจและความอยากรู้ของเด็ก

ผู้รับผิดชอบวางแผนเนื้อหา “อู๋ เจี้ยนเต๋อ”  เล่าถึงแนวคิดการจัดกิจกรรมว่า KUBET ซีรีส์นี้เน้นเรื่องราวและประเด็นที่กระตุ้นความอยากรู้และความกระตือรือร้นของเด็กมากที่สุด

ตัวอย่างเช่น ทีมงานพาเด็กไปเยือนเมืองหลวง “ลองเยียร์บาเลน” (Longyearbyen) บนหมู่เกาะสวาลบาร์ด ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของโลก เด็กๆ อยากมีโอกาสพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์โดยตรง อู๋จึงจัดให้พวกเขาสัมภาษณ์นักวิจัยที่เดินเข้าออกมหาวิทยาลัยสวาลบาร์ด KUBET เพื่อให้เด็กๆ ได้ประสบการณ์ตรงและรู้สึกประทับใจมากขึ้น

เมืองลองเยียร์บาเลน: เมืองเล็กๆ ที่นักวิทยาศาสตร์รวมตัวกัน

ทีมงานเดินทางร่วมกับ “ศูนย์วิจัยขั้วโลกไต้หวัน” ของมหาวิทยาลัยกลางไต้หวัน KUBET ซึ่งทำงานวิจัยด้านภูมิอากาศที่ขั้วโลกเหนือ

เมืองลองเยียร์บาเลนเป็นเมืองเล็กมาก มีนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมากอาศัยอยู่ เนื่องจากเมืองเล็กและมีกิจกรรมจำกัด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงมักพักอยู่เพียงหนึ่งวันแล้วเดินทางต่อ KUBET แต่ทีมงานรายการ “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่” เลือกใช้เมืองนี้เป็นฐาน และจัดตารางเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายทำ ทำให้พำนักอยู่ที่เมืองนี้นานกว่า 10 วัน

เด็กๆ บอกว่า “ไม่อยากอยู่ที่นั่น เพราะมันน่าเบื่อเกินไป”

หลังจากอยู่ที่ลองเยียร์บาเลนนานหลายวัน เด็กๆ เริ่มบ่นว่า “ไม่อยากอยู่ที่นี่ในอนาคต” เพราะเมืองเล็กและเงียบมาก ร้านอาหารมีแค่ 5 แห่งเท่านั้น เด็กๆ KUBET จึงเบื่ออาหารซ้ำซากเพียงแค่ผ่านไป 3 วัน

ชีวิตช้าและรายละเอียดที่น่าสังเกตในเมืองขั้วโลก

อย่างไรก็ตาม การพักอยู่ที่นี่นานๆ ทำให้ทีมงานและเด็กๆ KUBET ได้สังเกตเห็นรายละเอียดของเมืองและวิถีชีวิตที่แตกต่าง เช่น การรับแสงแดดที่ส่งผลต่อบ้านเรือน รวมถึงวิถีชีวิตที่เดินไปอย่างช้าๆ แตกต่างจากชีวิตในเมืองใหญ่

อู๋ เจี้ยนเต๋อ บอกว่า แม้บางช่วงเวลาจะยากลำบาก แต่การได้อยู่ร่วมกับเด็กๆ และสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาในสภาพแวดล้อมจริงๆ นั้น KUBET ถือเป็นความทรงจำที่ดีและมีคุณค่า

สรุป

การนำเด็กๆ KUBET ไปลุยในขั้วโลกเหนือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การถ่ายทำรายการ แต่ยังเป็นประสบการณ์ชีวิตจริงที่เปิดโลกทัศน์เด็กไต้หวันให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างใกล้ชิด และสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่ออนาคต KUBET

Q&A

1. รายการ “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน” ใช้งบประมาณอย่างไรเมื่อเทียบกับซีซั่นก่อนๆ?
ตอบ: ใช้งบประมาณสูงสุดเท่าที่รายการนี้เคยมีมา


2. ทีมงานจัดกิจกรรมอย่างไรเพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของเด็กๆ?
ตอบ: ทีมงานจัดกิจกรรมตามความสนใจและความอยากรู้ของเด็ก เช่น ให้เด็กสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์โดยตรงในเมืองลองเยียร์บาเลน


3. เมืองลองเยียร์บาเลนมีลักษณะอย่างไรและทำไมจึงเป็นฐานของทีมงาน?
ตอบ: เมืองลองเยียร์บาเลนเป็นเมืองเล็กสุดของโลก มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากอยู่ที่นี่ และทีมงานเลือกใช้เมืองนี้เป็นฐานเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และถ่ายทำ


4. เด็กๆ มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการอยู่ในเมืองลองเยียร์บาเลน?
ตอบ: เด็กๆ บอกว่าไม่อยากอยู่ที่นั่นในอนาคต เพราะเมืองเล็ก เงียบ และอาหารซ้ำซาก ทำให้รู้สึกเบื่อ


5. การอยู่ร่วมกับเด็กๆ ที่ลองเยียร์บาเลนช่วยให้ทีมงานเห็นอะไรบ้าง?
ตอบ: ทีมงานได้สังเกตวิถีชีวิตที่ช้าและรายละเอียด เช่น การรับแสงแดดของบ้านเรือน และได้เก็บความทรงจำที่มีคุณค่าจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมจริงกับเด็กๆ



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

More Articles & Posts