สารบัญ
- กว่าจะได้เด็กตัวแทนออกเดินทางสู่ขั้วโลกเหนือ
- ขยายจุดหมาย จากขั้วโลกเหนือสู่ปาเลาและนอร์เวย์
- กระบวนการคัดเลือกผู้ร่วมรายการ: จาก 400 เหลือ 9 คน
- ด่านสำคัญ: ความเป็นอิสระและแผนการทดลอง
- ความท้าทายของเด็กไต้หวันในการแสดงออก
- ความตั้งใจของทีมงาน: คัดเด็กที่มีแรงขับเคลื่อนและความอยากรู้จริง
- ผลตอบรับเกินคาดจากเด็กที่ถูกคัดเลือก
- บทส่งท้าย: เรียนรู้จากเด็กสู่โลกกว้าง
- Q&A
กว่าจะได้เด็กตัวแทนออกเดินทางสู่ขั้วโลกเหนือ
รายการเรียลลิตี้เด็ก “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน” นำเสนอผ่านมุมมองวิทยาศาสตร์ ชีวิตประจำวัน และระบบนิเวศ โดยมี 3 พิธีกรหลัก ได้แก่
- หลิน เจ๋อซี
- เวิน เจินหลิง
- เหยา อ้ายหนิง
พาเด็กๆ ไปเยือน 3 จุดหมายสำคัญ คือ ขั้วโลกเหนือ หมู่เกาะปาเลา และประเทศนอร์เวย์ เพื่อศึกษาผลกระทบของภาวะโลกร้อนและแนวทางการรับมือของแต่ละพื้นที่
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
ชื่อรายการ | หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน |
แนวทางการนำเสนอ | ผ่านมุมมองวิทยาศาสตร์ ชีวิตประจำวัน และระบบนิเวศ |
พิธีกรหลัก | หลิน เจ๋อซี เวิน เจินหลิง เหยา อ้ายหนิง |
จุดหมายที่สำรวจ | ขั้วโลกเหนือ หมู่เกาะปาเลา ประเทศนอร์เวย์ |
วัตถุประสงค์ | ศึกษาผลกระทบของภาวะโลกร้อนและแนวทางการรับมือของแต่ละพื้นที่ |
ขยายจุดหมาย จากขั้วโลกเหนือสู่ปาเลาและนอร์เวย์
นอกจากขั้วโลกเหนือที่เป็นจุดเริ่มต้น KUBETทีมผู้ผลิตยังเพิ่มเส้นทางไปยังปาเลา ที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจนกระทบวิถีชีวิตชาวเกาะ และนอร์เวย์ ประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องนโยบาย “ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” (Net Zero) KUBETทีมงานจึงเดินทางไปศึกษาการรับมือและแก้ไขปัญหาภูมิอากาศในประเทศนี้อย่างลึกซึ้ง

รายการวางแผนออกอากาศทั้งหมด 13 ตอน ตอนละ 30 นาที KUBETเพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและน่าสนใจ
กระบวนการคัดเลือกผู้ร่วมรายการ: จาก 400 เหลือ 9 คน
ในช่วงเตรียมงานที่ใช้เวลาน้อยกว่า 6 เดือน KUBET ทีมงานได้รับใบสมัครจากเด็กและเยาวชนทั้งหมดกว่า 400 คน จากนั้นคัดกรองเบื้องต้นเหลือ 40 คน ผ่านการสัมภาษณ์เลือกเหลือเพียง 9 คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด
ด่านสำคัญ: ความเป็นอิสระและแผนการทดลอง
ผู้ผลิตรายการ จู เสี่ยวฉวน เปิดเผยว่า เกณฑ์สำคัญนอกจากความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ยังเน้นความ “มีอิสระคิดและทำงานด้วยตัวเอง” KUBETรวมถึงต้องนำเสนอแผนการทดลองที่เกี่ยวข้องกับประเด็นโลกร้อน ซึ่งเป็นด่านที่ทำให้เด็กหลายคนต้องตกรอบ
ความท้าทายของเด็กไต้หวันในการแสดงออก
จู เสี่ยวฉวนกล่าวว่า เด็กไต้หวันส่วนใหญ่ยังติดกับการเรียนแบบ “ท่องจำ” มากกว่าการคิดวิเคราะห์และแสดงความเห็นเหมือนเด็กในต่างประเทศ “เด็กต่างชาติกล้าพูด กล้าแสดงออก KUBET แต่เด็กไต้หวันเวลาถูกถามมักเงียบ เราจึงเลือกเด็กที่มีความคิดริเริ่มและความอยากรู้อยากเห็นจริง ๆ”
ความตั้งใจของทีมงาน: คัดเด็กที่มีแรงขับเคลื่อนและความอยากรู้จริง
คุณ ไล่ เยี่ยนหยู หัวหน้าฝ่ายรายการเด็ก เสริมว่า KUBET เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นหน้าที่ของทีมผลิต งานนี้เด็กๆ มีภารกิจต้องทำ จึงเลือกเด็กที่มีแรงจูงใจสูง ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งผู้ปกครอง และมีความสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่ต่างๆ KUBET ที่จะไปสำรวจ
ผลตอบรับเกินคาดจากเด็กที่ถูกคัดเลือก
เด็กทั้ง 9 คนที่ได้รับการคัดเลือกนั้นมีผลงานและความตั้งใจที่ดีเกินคาด ทีมงานกังวลว่าหัวข้อโลกร้อนอาจดูน่าเบื่อสำหรับเด็ก แต่กลับพบว่าเด็กๆ มีความกระตือรือร้นและไอเดียแปลกใหม่ตลอดการเดินทางและถ่ายทำ
เนื่องจากเด็กๆ คือ “ตัวแทนของเด็กไต้หวัน” ที่ได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้าง ทีมงานจึงเน้นนำเสนอความคิดเห็นและมุมมองของพวกเขาอย่างเต็มที่ในรายการ KUBET เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ชมเยาวชนทั่วประเทศ
บทส่งท้าย: เรียนรู้จากเด็กสู่โลกกว้าง
การคัดเลือกที่เข้มข้นและการมีส่วนร่วมของเด็กๆ ทำให้รายการ “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน” ไม่ใช่แค่รายการเด็กทั่วไป KUBET แต่กลายเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้และแรงบันดาลใจที่ลึกซึ้งสำหรับเด็กและผู้ชมทุกวัย
Q&A
1. รายการ “หลังเลิกเรียน ฮัวลู่มี่: ซีรีส์โลกร้อน” พาเด็กๆ ไปศึกษาที่ไหนบ้าง?
ตอบ: เด็กๆ ได้ไปศึกษาผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่ขั้วโลกเหนือ หมู่เกาะปาเลา และประเทศนอร์เวย์
2. กระบวนการคัดเลือกผู้เข้าร่วมรายการเริ่มจากจำนวนผู้สมัครเท่าไหร่และคัดเหลือกี่คน?
ตอบ: เริ่มจากผู้สมัครกว่า 400 คน คัดกรองเหลือ 40 คนผ่านการสัมภาษณ์ และสุดท้ายเลือกเด็กที่เหมาะสมที่สุด 9 คน
3. เกณฑ์สำคัญที่ใช้ในการคัดเลือกเด็กนอกจากความสามารถด้านภาษาอังกฤษคืออะไร?
ตอบ: เน้นความเป็นอิสระในการคิดและทำงานด้วยตัวเอง รวมถึงต้องมีแผนการทดลองเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่นำเสนอได้จริง
4. ทีมงานพบความท้าทายอะไรเกี่ยวกับการแสดงออกของเด็กไต้หวัน?
ตอบ: เด็กไต้หวันส่วนใหญ่มักติดนิสัยเรียนแบบท่องจำ ไม่กล้าแสดงความเห็นหรือพูดออกมา ต่างจากเด็กต่างชาติที่กล้าพูดและแสดงออก
5. ทำไมทีมงานจึงเน้นเลือกเด็กที่มีแรงจูงใจและความสนใจเรื่องวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม?
ตอบ: เพราะเด็กเหล่านี้จะมีแรงขับเคลื่อนสูงในการปฏิบัติภารกิจและมีความตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งผู้ปกครอง และจะช่วยให้รายการมีความน่าสนใจและมีเนื้อหาลึกซึ้ง
เนื้อหาที่น่าสนใจ: