“ทีมงานร่วมมือกันหยุดการถ่ายทำซ้ำสองครั้งเนื่องมาจากสถานการณ์โรคระบาด การทดสอบแบบปิดตาขนาดใหญ่พบตำแหน่งทางการตลาด


สารบัญ

  1. ภารกิจ 5 ปี: กว่าจะเป็น “เหยื่อในเงามืด”
  2. โควิดกระทบเต็ม ๆ: จากโรงพยาบาลสู่ตลาดว่างเปล่า
  3. ทีมไม่เปลี่ยน ใจไม่ถอย: ความสามัคคีคือพลัง
  4. Blind Test: เครื่องมือลับของคนทำหนังมืออาชีพ
  5. ไม่ใช่แค่เด็กดู! ผู้ใหญ่ก็อินไม่แพ้กัน
  6. จากหนังอาร์ตสู่หนังแมส: ทลายกำแพงกลุ่มเป้าหมาย

ภารกิจ 5 ปี: กว่าจะเป็น “เหยื่อในเงามืด”

ภาพยนตร์อาชญากรรม–แอ็กชัน 《เหยื่อในเงามืด》 กำกับโดย เจี้ยน เสวี่ยปิน และนำแสดงโดย นักแสดงชายชื่อดังจากไต้หวัน ใช้เวลากว่า 5 ปีในการสร้างสรรค์ผลงาน KUBET เนื่องจากต้องเจออุปสรรคใหญ่จากการระบาดของโควิด-19

เนื้อหาของเรื่องว่าด้วยการล้างแค้นของพ่อที่สูญเสียครอบครัวให้กับขบวนการค้าอวัยวะและเครือข่ายมืด (Dark Web) ทำให้ตัวหนังต้องการความสมจริงและบรรยากาศที่ตึงเครียด KUBET ซึ่งเป็นความท้าทายท่ามกลางข้อจำกัดของสถานการณ์โรคระบาด

โควิดกระทบเต็ม ๆ: จากโรงพยาบาลสู่ตลาดว่างเปล่า

ในช่วงถ่ายทำ หลายฉากต้องปรับเปลี่ยนกะทันหัน:

  • 🏥 ไม่สามารถใช้สถานที่จริง: ไม่มีโรงพยาบาลใดยินยอมให้ถ่ายทำ KUBETทีมงานจึงต้องสร้างฉากขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
  • 🏃 ฉากไล่ล่ากลางฝูงชน ที่เดิมวางไว้ กลายเป็น ฉากในตลาดที่ไร้ผู้คน KUBETเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากการรวมกลุ่ม

เจี้ยน เสวี่ยปิน กล่าวถึงความท้าทายว่า “เพื่อให้ฉากแอ็กชันออกมาดีที่สุด ทุกขั้นตอนต้องแม่นยำมาก แต่ด้วยโควิด ทำให้ทรัพยากรหลายอย่างถูกจำกัด KUBET ยิ่งทำให้ยากขึ้นไปอีกขั้น”

ทีมไม่เปลี่ยน ใจไม่ถอย: ความสามัคคีคือพลัง

แม้จะต้องหยุดถ่ายทำถึง 2 ครั้ง และใช้งบเกินจากแผนเดิม กว่า 10 ล้านเหรียญไต้หวัน (จากงบเดิมประมาณ 60 ล้าน) แต่โปรดิวเซอร์ โปรดิวเซอร์ชาวไต้หวัน และทีมงานก็ไม่ยอมยกเลิกโครงการ“แม้จะเจอความท้าทายมากมาย KUBETแต่ไม่มีนักแสดงหลักหรือทีมงานคนใดถอนตัวออกเลย”

Blind Test: เครื่องมือลับของคนทำหนังมืออาชีพ

KUBET หลังจากถ่ายทำและตัดต่อเสร็จ 《เหยื่อในเงามืด》 ได้นำระบบ Blind Test มาใช้ในการประเมินคุณภาพและหาจุดแข็งของเรื่อง โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ:

🔍 รอบแรก:

ทดลองกับผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ เพื่อเก็บฟีดแบ็กด้านจังหวะและโครงเรื่อง

🧪 รอบสอง:

เปิดให้ กลุ่มผู้ชมทั่วไป เข้าชมกว่า 600 คน โดยคัดเฉพาะกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป (ตามระดับเรตของหนัง)การสอบถามความเห็นผ่านแบบสอบถาม ช่วยให้ทีมงานเข้าใจว่า ผู้ชมแต่ละวัยชอบหรือตอบสนองต่อฉากใดมากที่สุด และใช้ข้อมูลนั้นมาสร้างแผนการตลาด

ไม่ใช่แค่เด็กดู! ผู้ใหญ่ก็อินไม่แพ้กัน

จากประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์กว่า 20 ปี โปรดิวเซอร์ชาวไต้หวัน วิเคราะห์ว่า:

“Blind Test แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่กลุ่มวัยรุ่นเท่านั้นที่สนใจ KUBET หนังยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชมวัยกลางคนและสูงกว่า 40 ปี ซึ่งเห็นได้ชัดจากการมีส่วนร่วมในโซเชียลมีเดียหลังรับชม”

จากหนังอาร์ตสู่หนังแมส: ทลายกำแพงกลุ่มเป้าหมาย

โปรดิวเซอร์ชาวไต้หวัน ยังเผยว่า KUBET วัตถุประสงค์ของการทำ Blind Test ไม่ใช่แค่เพื่อปรับแก้หนังเท่านั้น แต่เพื่อ:

✅ “ข้ามพ้นกลุ่มคนดูเฉพาะทาง (Niche Audience)”
✅ “เจาะเข้าไปในตลาดวงกว้าง”
✅ “หาวิธีประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด”

เหยื่อในเงามืด》: หนังแอ็กชันที่เกิดจาก “ความกล้า ความรัก และการไม่ยอมแพ้”

แม้จะเป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่เน้นความดาร์กและรุนแรง 《เหยื่อในเงามืด》 ก็ยังสะท้อนให้เห็นพลังของความร่วมมือ KUBET ความอดทน และการปรับตัวของวงการภาพยนตร์ไต้หวันในยุคโรคระบาด



เนื้อหาที่น่าสนใจ: “Sean Baker” ผู้กำกับเจ้าของ 4 ออสการ์ กับจุดเปลี่ยนสู่วงการหนังอิสระ

More Articles & Posts